ภาษารัก สิ่งสำคัญคนรักกันควรรู้ (แถม Love Language Test เพื่อรู้ว่าคุณต้องการการแสดงความรักแบบไหน)

คุณเคยพบปัญหาในความสัมพันธ์กับประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาบ้างไหมที่พบว่า รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ว่า ทำไมเขาไม่แสดงความรักต่อกัน บ่อยครั้งมันอาจเกิดจากการแสดงความรักต่อกันไม่ตรงกับความต้องการของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จึงทำให้ไม่เข้าใจ และ ท้ายที่สุดก็เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อกัน

ภาษารัก (Love Language) เป็นเรื่องสำคัญในความสัมพันธ์ที่ควรเรียนรู้ ซึ่งมันสามารถมาใช้ได้อยู่ทั้งในความสัมพันธ์คู่รัก, ครอบครัว(พ่อ,แม่, พี่น้อง) รวมทั้งเพื่อนฝูงอีกด้วย

ภาษารักเป็นแนวคิดที่มาจาก Dr. Gary Chapman ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาด้านความรักที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี และยังเขียนอยู่ในหนังสือชื่อ The Five Love Languages ที่ขายดีติดอันดับ The New York Time Bestseller ซึ่งขายได้มากกว่า 12 ล้านทั่วโลกและแปลเป็น 50 ภาษา

โดยกล่าวว่า จริงๆ แล้ว ทุกคนมีภาษารักที่แตกต่างกัน และคนเรานั้นแสดงออกซึ่งความรักได้ 5 แบบ

คนเราสามารถเป็นได้มากกว่าหนึ่งภาษา แต่จะมีภาษาหลักของแต่ละคนแค่หนึ่งภาษาเท่านั้น

ภาษารักที่คนเราแสดงออกนั้นมี 5 แบบ ดังนี้

1. คําพูดที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ (Word of Affirmation)

การแสดงความรักผ่านคำพูด คือ การบอกความรู้สึกดี ๆ เช่น คิดถึง รัก เป็นห่วง ให้กำลังใจ เป็นการบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ถึงความรักแบบชัดเจนตรงไปตรงมา บางครั้ง คำพูดก็สำคัญพอ ๆ กับ การกระทำ เพราะเป็นการยืนยันและเน้นย้ำให้อีกฝ่ายมั่นใจถึงความรักที่มีให้มา และ ถ้าคู่ของเราชอบภาษารักแบบนี้ คำพูดแสดงความรู้สึกดี ก็ยิ่งจำเป็นและมีค่า

2. ให้เวลาอย่างมีคุณค่า (Quality Time)

การมีเวลาที่มีคุณภาพร่วมกัน หรือ การอยู่ด้วยกัน สิ่งสำคัญของเวลาที่มีคุณภาพ ก็คือ การที่คน ๆ นั้น ให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ รับฟังอีกฝ่ายอย่างสนใจ หรือทำกิจกรรมที่สนใจร่วมกัน คุณก็ต้องแสดงความกระตือรือร้นและใช้เวลากับเค้าให้มีคุณค่ามากที่สุด คุณภาพนั้นสำคัญกว่าเรื่องปริมาณ เวลาที่มีคุณภาพเพียงไม่นานอาจทำให้รู้สึกถึงความรักได้อย่างมากมาย

3. ให้ของขวัญ (Gifts)

การให้ของขวัญ หรือ สิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือ ของฝากต่าง ๆ ในโอกาสพิเศษ หรือ เดินเจอของถูกใจก็ซื้อมาฝาก เพราะการได้รับของขวัญนี้ แสดงถึงความคิดถึงกัน นึกถึงกัน และการเป็นคนสำคัญของกันและกัน ภาษารักด้วยของขวัญนี้ ไม่ได้แปลว่า คนกลุ่มนี้เป็นพวกวัตถุนิยม เพราะสิ่งสำคัญมันไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่เป็นคุณค่าทางใจที่รู้สึกถึงคนพิเศษจึงนำมามอบให้กัน

4. ทําบางสิ่งบางอย่างให้ (Acts of Service)

การแสดงความรักผ่านการดูแลที่เน้นไปที่การกระทำนั่นเอง คือ การช่วยเหลือดูแลและให้บริการเรื่องต่าง ๆ เช่น เตรียมอาหารเช้า, ทำงานบ้าน, ไปรับไปส่ง รวมถึง คอยดูแลยามเจ็บป่วย เป็นต้น สำหรับคนที่ชอบการแสดงออกของภาษารักรูปแบบนี้ การกระทำสำคัญกว่าคำพูดมาก การดูแลช่วยเหลือกันให้มาก คือ การสื่อถึงความรักที่มีให้กัน

5. สัมผัสทางกาย (Physical Touch)

การสัมผัสทางร่างกายในที่นี้ เช่น จับมือ หอมแก้ม โอบ กอด เป็นต้น การสัมผัส เป็นการสื่อถึง ความรัก ความห่วงใย และ ความใกล้ชิดที่มีระหว่างกัน การสัมผัสกายอาจรวมถึงเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่ควรระมัดระวัง เพราะ การสัมผัสกายสำหรับบางคน ไม่ได้จะแปลว่า เขาอยากมีเพศสัมพันธ์เสมอไปนะ

ภาษารัก เรียนรู้ที่จะรู้จักไว้ก็ไม่เสียหาย เมื่อต้องเปลี่ยนจากการใช้ชีวิตคนเดียวแบบโสด ๆ จะได้ปรับตัวได้ง่าย มีข้อมูลมากพอไว้ สำหรับปรับใช้ในวันที่ต้องไปสู่ประสบการณ์ชีวิตรักจริง ๆ จัง ๆ

แบบทดสอบมาให้ลองทำกัน Love Language Test by Gary D. Chapman

เป็นแบบทดสอบเพื่อหาว่าเราเป็นคนต้องการการแสดงความรักแบบไหน

วิธีเล่นง่ายมาก ถ้าคิดว่าข้อนั้นใช่เรา ให้วงเลข 1 ไว้ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ต้องวง ไม่ต้องทำไรทั้งนั้น ข้ามไป สุดท้ายให้รวมคะแนนว่าเราวงแถวไหนเยอะสุด ABCD

*ดูเฉลยด้านล่างสุด

A =

เลือก A เยอะสุด คุณเป็นพวกคําพูดที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ ( Word of Affirmation) ต้องการความชัดเจน ต้องการให้คนรักพูดว่ารักออกมาตรงๆ รู้สึกยังไงก็พูดออกมา เลย เคลียร์ๆ ต่อให้คนรักเอาใจ เทคแคร์คุณแค่ไหน คุณก็จะรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจในความรักที่เขามีให้ ถ้ารักกันก็พูดออกมาเลยว่ารัก

B =

เลือก B เยอะสุด คุณเป็นพวกให้เวลาอย่างมีคุณค่า (Quality Time) ต้องการได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนรัก ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน คอยอยู่ข้างๆ กัน หากมีเวลาว่าง ก็จะนึกอยากใช้เวลากับคนรักก่อนเสมอ คน Type นี้ถ้ามีความรักแบบ Long Distance Relationship จะลำบาก เพราะไม่ได้ใช้เวลาร่วมกับคนรัก ทำให้ระแวงคนรักตลอดเวลา

C =

เลือก C เยอะสุด คุณเป็นพวกให้ของขวัญ (Gifts) ต้องการการแสดงความรักผ่านของขวัญ เพราะการที่เขาตั้งใจเลือกของขวัญให้เรา แสดงว่าเขาคิดถึงเรา เขาใส่ใจเรา เขารักเรา ไม่ต้องพูดว่ารักก็ได้ แต่จงแสดงออกว่ารักฉันผ่านของขวัญที่แสดงถึงความใส่ใจ

D = เลือก D เยอะสุด คุณเป็นพวกทําบางสิ่งบางอย่างให้ (Acts of Service) ต้องการให้คนรักเทคแคร์ดูแลเอาใจใส่ ทำนู่นทำนี่ให้ ช่วยแบ่งเบาภาระเรา ช่วยทำให้เราหายเหนื่อย ไม่ต้องพูดว่ารักก็ได้ แต่ช่วยเอาใจใส่ฉันผ่านการกระทำ ให้ฉันรู้สึกว่าเธอรักฉัน

E = เลือก E เยอะสุด คุณเป็นพวกสัมผัสทางกาย (Physical Touch) ต้องการ Skinship การได้สัมผัสกับคนรัก ไม่ต้องไปไกลถึงขั้นมี Sex กัน แค่เขาจับมือเราแน่นๆ ก็รู้สึกได้ว่าเขารักเรา

==

เพราะการฟังคือการเยียวยารักษาใจในอีกรูปแบบหนึ่ง เพียงมีใครสักคนรับฟังอย่างเข้าใจ ไม่ตัดสินใจ แค่นี้ก็ให้ความสบายใจเกิดขึ้นได้ง่ายแล้ว

บริการมี 2 แบบ ดังนี้

1. ฟัง(Listen) : รับฟังอย่างเข้าใจ เพื่อผู้รับบริการได้สื่อสารหรือถ่ายทอดความรู้สึกสิ่งต่างๆที่คั่งค้างในใจ

2. เติบโต(Grow) : รับฟังเพื่อเติบโต เพื่อผู้รับบริการได้แสดงความรู้สึก พร้อมทั้งเรียนรู้รับคำแนะนำเพื่อพัฒนาตนเอง

บริการรับฟังใจที่นี่ต่างจากที่อื่นยังไง?

1. รับฟังอย่างเข้าใจความรู้สึก

2. รับฟังอย่างไม่ตัดสิน

3. รับฟังอย่างไม่ด่วนปลอบใจ

4. รับฟังและปรึกษากันเพื่อปรับใช้ในชีวิตจริงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

สามารถดูรายละเอียดได้ด้านล่างนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก HappyEverySingleDay น๊าคร๊า

อ้างอิง : Twitter,Brandage,Healthtodaythailand

ภาพ : Unsplash

#ภาษารัก #ใช้ชีวิตคนเดียว #โสด #ความสัมพันธ์ #คนรักกัน #ความรัก #HappyEverySingleDay #เพราะทุกวันคือวันสุข #LoveLanguage #TheFiveLoveLanguages #GaryChapman